“BMF2019” จัดใหญ่..โปรฯ แรง ฉลองสู่ทศวรรษที่ 2ค่ายบิ๊กไบค์ 16 แบรนด์ร่วมกระหึ่ม!
ยอดจองบิ๊กไบค์ทะลุ 500 คันอุปกรณ์ตกแต่ง-คอลเลคชั่นฮอตฮิต เงินสะพัดกว่า 500 ลบ.
"แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 11” จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ทุ่มงบกว่า 15ล้านบาท เนรมิตรบรรยากาศเทศกาลเพื่อเหล่าไบค์เกอร์โดยเฉพาะ ค่ายมอเตอร์ไซค์ชั้นนำ16แบรนด์ขานรับ ขนทัพบิ๊กไบค์รุ่นใหม่-รุ่นยอดนิยม อัดโปรโมชั่นแรงร่วมกระหึ่ม! ในโอกาสเฉลิมฉลองก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 การจัดงาน ร้านค้าอุปกรณ์ตกแต่งและคอลเลคชั่นแต่งกายกว่า 90 บู๊ธไม่น้อยหน้า เปิดดีลราคาพิเศษ ระดมผลิตภัณฑ์มาล้างสต๊อกจัดระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ (ราชประสงค์) มียอดจองมอเตอร์ไซค์กว่า 500 คัน เงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท และมีผู้เข้าชมงานกว่า 1 ล้านคน
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์ โชว์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน "แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล ครั้งที่ 11" (Bangkok Motorbike Festival 2019 หรือ BMF 2019) สุดยอดเทศกาลมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “Ride Identities : สะท้อนตัวตนแห่งการขับขี่” ได้รับการสนับสนุนจาก ศูนย์การค้า Central World, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ,สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติและภาคธุรกิจต่างๆโดยปีนี้มีค่ายมอเตอร์ไซค์ชั้นนำขานรับเข้าร่วมงาน 16 แบรนด์ อาทิ Kawasaki, HARLEY-DAVIDSON, BMW, Suzuki, Honda Cub house, BENELLI, YAMAHA, TRIUMPH RAMA9, MV AGUSTA, ROYAL ENFIELD, BCM, Indian Motorcycle, Zero Engineeringร้านค้าอุปกรณ์ของตกแต่ง คอลเลคชั่นชุดแต่งกายกว่า 40 แบรนด์ชั้นนำจากกลุ่มผู้ประกอบการชาวไทยและจากต่างประเทศ ที่มาร่วมออกบู๊ธจำหน่ายสินค้าล้างสต๊อกในราคาพิเศษสุดๆ กว่า 90 บู๊ธ
การจัดงาน"BMF 2019" ในปีนี้ ใช้พื้นที่ทั้งภายในและลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์(ราชประสงค์) กว่า 10,000 ตารางเมตร โดยทุ่มงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศของงานให้สมกับเป็นงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเป็นเทศกาลที่เหล่าไบค์เกอร์ทุกคนรอคอย โดยมีโซนแสดงรถคัสตอมไบค์, โซน Motorcycle Club, การประกวดตกแต่งมอเตอร์ไซค์จากค่ายรถและสำนักแต่งรถต่างๆกิจกรรมเวิร์คช็อป, กิจกรรมทอล์กโชว์ และจัดพื้นที่จอดรถกว่า 300 คัน บริเวณลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าฯ ทั้งหมดนี้ เพื่อตอบโจทยผู้ที่หลงใหลและรักมอเตอร์ไซค์ในทุกมิติ
“1 ทศวรรษที่ผ่านมา การจัดงาน (BMF) เติบโตไปพร้อมกับตลาดรถบิ๊กไบค์ (ขนาด 400 ซีซี.ขึ้นไป) ที่ได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง โดยปีพ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ตลาดรถบิ๊กไบค์มีอัตราการเติบโตประมาณ13%หรือมียอดขายกว่า31,000 คัน (ปี 2560 ยอดขายราว 27,000 บาท) แม้จะผิดเป้าหมายจาก 18% ตามที่ค่ายผู้ผลิตได้คาดการณ์เอาไว้ก็ตาม แต่ยังเป็นอัตราการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง และในปี พ.ศ.2562 ก็เช่นกัน ภาพรวมตลาดรถบิ๊กไบค์ยังคงเติบโตระดับ 13-14%และจากที่พูดคุยกับค่ายรถและผู้ประกอบการทุกรายต่างยืนยันที่จะมอบโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งอัตราดอกเบี้ย ของแถม ส่วนลดและราคาสุดพิเศษให้กับผู้สนใจ คาดว่าจะมียอดจองรถบิ๊กไบค์กว่า500 คัน มียอดผู้เข้าชมงานกว่า 1 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนภายในงานกว่า 500 ล้านบาทโดยรวมยอดขายอุปกรณ์ตกแต่งและคอลเลคชั่นแต่งกายไว้ด้วย”
สำหรับเทรนด์การใช้รถบิ๊กไบค์ในปี พ.ศ.2562 จะมีอัตราการเติบโตในทุกกลุ่มรถ ไม่ว่าจะเป็นรถสปอร์ตหรือรถในกลุ่มสายลุยทางฝุ่น โดยมีปัจจัยบวกมาจากกระแสความนิยมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ MOTO GP และการใช้รถบิ๊กไบค์เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของตัวผู้ขับขี่เอง
“ที่น่าจับตาเป็นพิเศษคือ ตลาดอุปกรณ์ของตกแต่ง คอลเลคชั่นเสื้อผ้าชุดแต่งกาย และกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขื่ปีนี้จะมีความคึกคักกว่าช่วงที่ผ่านมา เราจึงยกระดับและเพิ่มความเข้มข้นในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่มากกว่าปีที่ผ่านมาเช่น กิจกรรมเวิร์คช็อปเทคนิคการขับขี่มอเตอร์ไซค์กับนักแข่งชื่อดังเมืองไทย อย่าง “ติ๊งโน๊ต-ฐิติพงศ์ วโรกร” หรือจะเป็นประกวดแต่งรถ Bangkok Custom Bike Competition ที่เปิดเวทีให้นักออกแบบตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ชาวไทยได้แสดงฝีมือ และเป็นโอกาสในการที่จะสร้างแบรนด์สินค้าอุปกรณ์ตกแต่งของคนไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก และที่พิเศษสุดๆ เราได้เชิญกูรู Custombikeชื่อดังชาวญี่ปุ่น Mr. Shinya Kimuraซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในสหรัฐอเมริกา เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการ Custom มอเตอร์ไซค์ให้ดาราดังฮอลลีวู้ด อย่าง Brad Pitt และเป็นผู้ให้กำเนิดรถมอเตอร์ไซค์ Zero Engineering ที่อยู่ในโรงรถของ Tony Stark ในหนัง Hollywood อย่าง Iron Manจะร่วมมาแชร์ประสบการณ์และไอเดียล้ำๆ ในการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ให้ผู้สนใจได้เกิดไอเดียไปพัฒนาการธุรกิจตนเอง ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการชาวต่างชาติอย่างประเทศญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่มาร่วมงาน นอกจากมาร่วมจำหน่ายผลิตภัณฑ์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์แล้ว ยังจะมีการต่อยอดทางธุรกิจในลักษณะการเจรจาทางธุรกิจ (B2B)คาดว่าน่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในส่วนนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท